ดิฉันจะขอเล่าถึงความภูมิใจมากที่สุดในชีวิตให้ผู้อ่านได้อ่านกัน
ตั้งแต่เล็กจนโต ความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของดิฉัน มีเยอะแยะมากมายหลายเรื่องราว ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ดิฉันมีความภูมิใจมากที่ได้รับเลือกให้ขึ้นไปเชิญธงขึ้น-ลงสู่ยอดเสาร์ที่โรงเรียนอนุบาล เป็นครั้งแรกที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับสังคม แล้วต่อมาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนรำในงานวัด ซึ่งปกติจะเป็นคนที่รำไม่เป็นเลย ส่วนชีวิตในตอนโตที่ภูมิใจที่สุดถึงที่สุดในชีวิตคือ ได้เข้าศึกษานักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) เหตุผลที่ภูมิใจมากที่สุด เพราะพ่อเป็นทหารมาก่อน ความต้องการของพ่อคือ อยากให้ลูกได้เรียนทหาร ทั้งๆที่ดิฉันเป็นผู้หญิงเลยได้โอกาส ครั้งแรกที่มาบอกพ่อว่าจะสมัครเรียนนักศึกษาวิชาทหาร พ่อดีใจมาก พ่อสนับสนุนเต็มที่ พ่ออยากให้เรียน ตอนแรกความรู้สึกไม่อยากเรียนสักนิดเลย เพราะเรารู้ว่าการเป็นทหารมันเหนื่อยมากขนาดไหน แต่หยุดคิดนิดนึงว่า..ในเมื่อพ่ออยากให้เราเรียน ทำไมเราถึงทำให้พ่อไม่ได้ สุดท้าย เราก็ได้เรียนจบนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 5 ตามที่พ่อต้องการ แต่เสียใจอยู่นิดนึง ว่าตอนนี้พ่อไม่ได้อยู่เห็นลูกประสบความสำเร็จในชีวิตตามที่พ่อต้องการแล้ว พ่อจากดิฉันไปโดยไม่มีวันกลับ แต่ดิฉันก็ภูมิใจที่สุดว่าดิฉันได้ทำตามสิ่งที่พ่อต้องการสำเร็จลุล่วง แล้วดิฉันก็ไม่น้อยใจเลยว่าพ่อไม่ได้ให้อะไรฉันไว้ดูต่างหน้าเลย ในวันที่พ่อได้จากฉันไปเพราะสิ่งที่พ่อได้ให้ฉันก็คือ ว่าที่ร้อยตรีหญิงกมลกานต์ เกิดสาท มันคือที่สุดในชีวิตของฉันแล้ว ส่วนความภาคภูมิใจอื่น ๆ ก็มี เคยได้เป็นตัวแทนแข่งกีฬาวอลเล่ย์บอลจังหวัด และเคยได้เป็นตัวแทนแข่งทักษะ พูดภาษาอังกฤษ ให้กับโรงเรียนระดับอุดมศึกษาด้วย สุดท้ายนี้ดิฉันขอทิ้งท้ายด้วยประโยคสั้น ๆ ว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ถ้าคุณตั้งใจ ใส่ใจ ใส่ความรู้สึกลงไป ทุกสิ่งที่คุณทำก็ล้วนเป็นความภาคภูมิใจทั้งสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น